JADE
หยก ก็คือหินแร่ชนิดหนึ่งแต่ด้วยความสวยงามของหยกในตัวของหยกเอง ที่มนุษย์นำมาปรับเปลี่ยนสภาพจากหินกลายเป็นสิ่งมีค่าทางจิตใจให้แก่คนเราได้มากคุณค่า ถ้าจะว่าผู้ที่นำหยกมาใช้น่าจะเป็นชนชาติจีนที่ขุดพบกันมีใช้กันมานานกว่า 7,000 ปี ชาวจีนถือว่าหยกเป็นอัญมณีที่มีค่ามากที่สุดดุจสวรรค์ประทานมาให้ ชนชาติจีน ได้ใช้หยกไปตามแนวความเชื่อต่างๆ ซึ่งเท่าที่ได้ศึกษาเรื่องราวหยก ไม่มีข้อใดเลยที่สร้างความเสียหายให้กับผู้เป็นเจ้าของ หยกมิได้มีความหมายถึงให้เรามีสุขภาพที่ดี โชคลาภที่ดี หรือความรักความบริสุทธิ์ หรือการสร้างภูมิบัญญา แต่หากหยกยังสร้างความสัมพันธ์กับจักระร่ายกายของมนุษย์ ทั้งหัวใจ จิตใจเสริมสร้างบำรุงต่างๆทุกประการอีกทั้งสร้างความเชื่อ ในด้านค้มครองเริ่มแต่มีชีวิตจนสิ้นอายุใข ซึ้งเราจนพบเห็นจากการขุดพบในหลุมศพโบรานนับพันปี ผู้เขียนมิได้เป็นผู้เชี้ยวชาญด้านหยกมากนักจึงขอแนะนำ ลองดูรายการหยกจาก CCTV9 ของจีน มีรายละเอียดเรื่องหยกถึงสี่หน้าให้อ่าน
ที่ http://english.cntv.cn/program/documentary/20111117/115326.shtml
มีการแบ่งหยกออกเป็นสองชนิดคือ หยกเจดไดท์ Jadeite เป็นหยกที่มีราคาแพง และหยกอีกชนิดหนึ่งคือหยกเนฟไฟรท์ nephrite แต่ราคาถูกกว่ากันมาก เมื่อเราสนใจหยกหรือคิดจะซื้อหาหยกมาเป็นเจ้าของก็มักจะมีคำถามว่าหยกจริงหรือหยกปลอม คำตอบง่ายๆต้องบอกว่าหยกจริงเป็นส่วนใหญ่ถ้าซื้อจากร้านขายหยกโดยเฉพาะ เพรียงแต่ว่าเป็นหยกผ่านกรรมวิธีปรุงแต่งหรือไม่ ทั้งนี้มิใช้จะแนะนำวิธีการพิสูจน์เพราะการดูหยกควรเป็นผู้เชียวชาญ โดยทั่วไปจะเลือกหยกเจดไดท์ตรวจดูว่าสีเขียวหยก เป็นเขียวธรรมชาติ หรือเขียวที่เกิดจากการย้อม โดยใช้เครื่องมือ 2 ชนิดคือ เชลซี ฟิวเตอร์ และสเป็คโตรสโคป เชลซี ฟิวเตอร์
กำไลหยกเจดไดท์จากพม่า |
หยกเจดไดท์ |
หยกเจดไดท์ จากพม่า |
หยกเนฟไฟรท์จากประเทศจีน |
ก่อนจะทราบกรรมวิธีในการทำ ก็ให้ทราบถึงสารแร่ในหยก ประกอบด้วยแร่ 2 ชนิด คือ เจไดท์ ซึ่งเป็นสารประกอบ โซเดียม - อะลูมิเนียม ไพรอกซีน หรือเรียกว่า หยกแข็ง เป็นหยกที่พบในประเทศพม่าเท่านั้น อีกชนิดหนึ่ง ก็คือ เนไฟรท์ เป็นสารประกอบแคลเซียม แมกนีเซียม แอมฟิโบล หรือเรียกว่า หยกอ่อน พบในจีน รัสเซีย แคนาดา ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้ อาฟริกา ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ ทั่วโลก แต่ตอนนี้จีนได้นำมาดัดแปลงจนสวยงาม ราคาไม่ได้ถูกเลย เห็นจากผู้ที่ไปเที่วยเมืองจีนซื้อมาแพงมาก(โดนหลอกมาครับ)
การปรุงแต่งหยกโดยทำการกัดสี ส่วนใหญ่จะใช้หยกเจไดท์ ซึ่งมีสีเข้ม นำมาทำการกัดสีเข้มเหล่านั้น ให้จางลง โดยใช้ กรดไฮโดรคลอริก กรดไนตริก หรือ สารประกอบโซเดียมบางชนิด แช่ไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนถึงหลาย อาทิตย์กรดเหล่านี้จะทำปฏิกริยากับโซเดียม- อะลูมิเนียมในเนื้อหยก เพื่อกำจัดสีน้ำตาลแกมดำ ซึ่งเป็นสารประกอบของเหล็ก จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาวหรือเขียวอ่อน หรือแปลงสภาพสีตามชนิดของกรดที่นำไปแช่ หยกที่ผ่านกระบวนการกัดสีจะสูญเสียคุณสมบัติสำคัญคือ ความเหนียว ถ้าผ่าหยกก้อน จะเห็นเนื้อในของมันซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นใย ของผลึกขนาดเล็กจำนวนมากมาย
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้เรายังคิดว่าเป็นหยกปลอมหรือไม่ถ้าคิดจะเลือกความสวยทีเร่งเวลาธรรมชาติให้สวยงามขึ้นหรือเราจะรอเวลาไปอีกหมื่นๆปีจึงได้ของสวยขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ตอนนั้นเชื่อได้ว่าเราคงสวยน้อยกว่าหยกแน่เลย แต่ความในใจผู้เขียนผู้เขียนมองว่าค่าราคาแพงของหยกเจไดท์ กลับมีค่าต่ำกว่าหยกเนฟไฟร์ท ที่หยกเจไดท์มีสีที่งดงามนำมาเป็นทำเครื่องประดับมากกว่าสร้างงานศิลป
การกำเนิดนิยมของหยกเจไดท์ ชาวจีนนำมาใช้เมื่อ 700 กว่าปีโดยนำมาจากพม่าที่คิดว่าน่าจะมีแห่งเดียวในโลก ผู้เขียนกลับนิยมชมชอบหยกเนฟไฟรท์ที่มีการขุดพบกันมามากกว่า 7,000 ปี ที่แสดงอารยธรรมด้านงานศิลปให้เราเห็นกันทุกวันนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้จะเทียบราคาและคุณค่ากันได้อย่างไร อีกทั้งปัจจุบันการนำหยกเนฟไฟรท์ไปแกะสลักสร้างงานศิลปกันเพิ่มขึ้นยิ่งมีคุณค่ามากกว่าเป็นแน่ อีกทั้งความจริงแล้วชนชาวจีนต่างยอมรับหยกเนฟไฟร์ทเป็นหยกแท้มาหลายพันปีแล้วมิใช้หยกเจไดท์ที่ทางชาติตะวันตกนิยมกัน
หยกเนฟไฟรท์แกะสลักเป็นยูอี่ |
หยกเนฟไฟรท์แกะสลักเป็นปี่เซี๊ย |
ผู้เขียนขอแนะนำท่านชมสารคดีจาก CCTV9
ที่ http://english.cntv.cn/program/documentary/jade/index.shtml
ชุด - Documentary Channel 8-part Special- Jade
มีด้วยกัน 8 ตอน
http://english.cntv.cn/program/documentary/jade/index.shtml
ชุด - Series: China?s Ancient Jade Culture
มีด้วยกัน 7 ตอน
http://english.cntv.cn/program/newfrontiers/series/jade/index.shtml
และชุด - Series: Gambling on Stones
มีด้วยกัน 4 ตอน ที่
http://english.cntv.cn/program/e_documentary/series/gambling/index.shtml